ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าแคมเปญชิ้นนี้ไม่ได้เป็นเรื่องทางสังคมโดยตรงและก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากปัญหาทางสังคมอันแสนคับข้องใจด้วยครับ แต่ที่เอามาให้ดูเพราะวิธีการคิดและนำเสนอมันน่าสนใจมากครับ
Outings Project เป็นโปรเจ็คที่ริเริ่มมาจากศิลปินชาวฝรั่งเศสนามว่า Julien de Casabianca นายคนนี้มองว่า
No one really watch them in their frames.
Smalls. Secondary. Forgotten.
Definitely anonymous. Almost dead.
“ไม่มีใครที่อยากจะไปดูงานศิลปะในกรอบอันหนาเตอะหรอก เพราะมันช่างเล็ก ดูเป็นรอง ไม่น่าจดจำ นิรนาม และไร้ชีวิตชีวา” (ขออภัยสำหรับการแปลกากๆ ถ้ามีคำแปลที่ดีกว่านี้ก็ช่วยผมหน่อยนะครับ)
We bring them back to life in the new world.
Where they now have all the time to watch us.
“เราได้พางานศิลปะเหล่านี้มาสู่โลกใบใหม่ โลกที่ทุกคนจะใช้เวลาดื่มด่ำได้อย่างเต็มที่”
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า โปรเจ็คนี้ใช้เพียงแค่มือถือถ่ายรูปชิ้นงาน Portrait ในพิพิธภัณฑ์ พิมพ์มันออกมา แล้วก็ไปแปะตามกำแพงข้างถนน
โปรเจ็คนี้ยังได้เชิญชวนศิลปินในแต่ละท้องถิ่นมาร่วมทำโปรเจ็คนี้ด้วยการ แชะ พิมพ์ แปะ ปลดปล่อยชิ้นงานให้เป็นอิสระจากกรอบอันหนาเตอะในพิพธภัณฑ์ ซึ่ง ณ ตอนนี้ Outings Project ได้ขยายสาขาไปถึง 6 เมืองใหญ่ เช่น London, Paris, Madrid, Barcelona, Dijon (ฝรั่งเศส) และ Asuncion (ปารากวัย) และมีแนวโน้มที่จะขยายไปเมืองอื่นอีกทั่วโลก
ผมเห็นด้วยกับโปรเจ็คนี้ที่ว่า “ศิลปะจะมีชีวิตชีวาได้ก็ต่อเมื่อมีคนดู” คิดแล้วก็น่าลองทำที่เมืองไทยดูบ้างนะครับ บ้านเมืองเราคงมีสีสันขึ้นเยอะ และอาจจะกลายเป็นเมืองหนึ่งที่รุ่มรวยไปด้วยศิลปะ เมื่อเราได้นำศิลปะมาสู่ชีวิตประจำวันของผู้คน
ติดตามผลงานของโปรเจ็คนี้ได้ที่ http://www.outings-project.org/
Source: Designtaxi